MesoFat เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือก Mesofat

หลักการในการเลือก Mesofat ต้องฟังคำแนะนำจากแพทย์เป็นหลัก ว่าร่างกายของเหมาะกับตัวยาแบบไหน ตัวยาแบบไหนจะได้ผลลัพธ์กับร่างกายได้ดีที่สุด โดยแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยตัวยาต้องเป็นของแท้มาจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ ตัวหมอมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน จุดที่จะฉีดมีความปลอดภัยหรือเสี่ยงจะเป็นอันตรายมากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้ามาที่ DRC Clinic แพทย์จะแกะกล่องให้ดู แกะหลอดให้ดูทั้งก่อนฉีดและหลังฉีด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราใช้ของแท้ร้อยเปอเซนต์ โดยทาง DRC Clinic เราจะให้ขวดผลิตภัณฑ์ที่ฉีดกลับไปด้วย เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบว่าเป็นของแท้จาก Official website ของยี่ห้อนั้นๆ

Mesofat คืออะไร

ตัวยาที่ช่วยสลายไขมันในชั้นไขมัน ก็คือจะไปลดทั้งไขมันและพวกเซลลูไลท์โดยที่ไม่ต้องผ่านตัด ไม่ต้องดูดไขมัน สามารถฉีด Mesofat เข้าไปช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดได้ทันที โดยหลักการทำงานคือตัวยาจะสามารถทำให้ไขมันแตกตัวหรือสลายตัวออก โดยไขมันเหล่านั้นจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ฉะนั้นหลังฉีด Mesofat ควรดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้ไขมันในร่างกายของเราที่ถูก Mesofat จัดการ จะถูกระบายออกจากร่างกายโดยง่าย โดยสารออกฤทธิ์หลักๆที่ช่วยในการสลายไขมัน คือ

1) สารสกัดจากอาร์ติโชก (Artichoke Extract) ทำหน้าที่กระตุ้นกระบวนการ Anabolism ซึ่งมีความสามารถในการสลายไขมัน ปรับลดการสร้างไขมัน ทำให้ไขมันสลาย

2) Mesostabyl ทำหน้าที่กระตุ้น Enzyme Lipase ซึ่งมีความสามารถในการย่อยไขมัน ลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์(Trigleceride) ลดการสร้างคอเลสเตอรอล(Total cholesterol)

3) L-CARNITINE ช่วยให้ร่างกายดึงไขมันเก่ามาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันสะสมเป็น Fatburn หรือ การเผาผลาญไขมันแทน

Mesofat ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ช่วยในเรื่องของการสลายไขมัน เน้นเป็นการสลายไขมันเฉพาะจุด เช่น ใช้ฉีดตรงแก้ม เหนียง คางสองชั้น ท้อง แขน หน้าท้อง ต้นขา สามารถลดได้หมด โดยเฉพาะจุดที่มีการสะสมไขมันมากๆ การฉีด Mesofat ก็จะเข้าไปสลายไขมันเพื่อให้ไขมันแตกตัวออก

Mesofat แตกต่างจาก Botox ยังไง

Mesofat ช่วยสลายไขมันแต่ Botox จะเป็นการใช้โปรตีนไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราวทำให้กล้ามเนื้อฝ่อลง บริเวณนั้นจึงหยุดทำงาน ทำให้ริ้วลอยตื้นขึ้น กรามเล็กลง หน้าเรียวลง แต่ไม่ได้ไปช่วยสลายไขมัน แต่ว่าเราสามารถทำทั้ง Mesofat และ Botox ควบคู่กันได้ จะได้ผลลัพธ์ทั้งการลดขนาดของกล้ามเนื้อและลดไขมันไปพร้อมๆกัน แก้ไขปัญหาได้ทั้ง 2 ทางซึ่งต้องปรึกษาแพทย์อีกทีนึงเพื่อประเมินอาการ

Mesofat ฉีดตรงไหนได้บ้าง

Mesofat สามารถฉีดได้หลายบริเวณ ทั้ง แก้ม เหนียง ท้อง แขน ต้นแขน หน้าท้อง เอวห่วงยาง หลัง ก้น ขาหนีบ ต้นขา เรียกได้ว่าสามารถฉีดได้ทุกส่วนที่มีไขมันสะสม ขจัดไขมันออกยาก การออกกำลังกายเป็นการลดไขมันทั้งร่างกาย อาจจะช่วยลดไขมันได้แต่ต้องใช้เวลา อีกทั้งเรายังไม่สามารถระบุจุดที่ต้องการให้ไขมันลดได้ตามที่ใจเราต้องการ ต้องพึ่งความสามารถของ เมโส นี่แหละครับเข้าตรงจุด เคลียไขมันสะสม ช่วยให้ร่างกายสัดส่วนกลับมาเข้าที่

ข้อดีของการฉีด Mesofat

หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น บวมช้ำน้อยมาก ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน เห็นผลลเร็ว ปลอดภัย ราคาถูก

ข้อเสียของการฉีด Mesofat

ผลลัพธ์จะไม่เห็นในทันที ต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ตัวยาเข้าไปจัดการกับไขมันภายในร่างกาย ยิ่งคนที่มีปริมาณไขมันเยอะจะต้องฉีดซ้ำ 4-5 ครั้ง ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจนตามที่แพทย์ประเมิน

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Mesofat

1) ไม่ควรกดหรือนวดบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมและยุบไปเอง
2) ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายไปตามปัจสวะ
3) ปรับพฤติกรรมการกิน ทำให้ไขมันใหม่ไม่กลับมาอีก
4) หลักเลี่ยงการให้ความร้อนกับร่างกาย เช่น อบไอน้ำ อบซาวหน้า เลเซอร์ ประมาณ 1-2 สัปดาห์
5) งดการดื่มแอลกอฮอล

ฉีด Mesofat บวมกี่วัน

หลังฉีดจะบวมเล็กน้อย 1-2 วัน เพราะไขมันแตกตัวออก แต่จะค่อยๆยุบไปเอง

ต้องฉีด Mesofat กี่ครั้ง

จำนวนครั้งที่ฉีดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละคน โดยค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

Mesofat อยู่ได้นานกี่เดือน

ตัวยาจะออกฤทธิ์ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เมื่อยาหมดฤทธิ์ให้มาฉีดซ้ำตามแผนที่แพทย์ได้แนะนำ